Thursday, October 28, 2010

สมุนไพร

                        
                         สมุนไพร เป็นสิ่งที่เกิดจากธรรมชาติที่มีประโยชน์ในแง่ต่างๆมากมาย ในอดีตสมุนไพรมักถูกนำมาใช้เป็นยารักษาโรค  คุณประโยชน์ของสมุนไพรแต่ละชนิดก็จะมีความแตกต่างกันไปตามสรรพคุณสมุนไพร ซึ่งคนยุคเก่าได้ศึกษาค้นคว้าและเก็บเป็นข้อมูลที่ได้จากการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรนานาชนิดเป็นเวลายาวนาน  ปัจจุบันกระแสความนิยมเกี่ยวกับสมุนไพรมีมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อคนเริ่มหันมาตระหนักถึงสุขภาพเป็นด้านหลักผนวกกับความเชื่อของมนุษย์เราที่เชื่อกันว่าสิ่งที่ดีที่สุดก็คือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ไม่มีการปลอมปนจากสารเคมีหรือถ้าจะมีก็ต้องไม่สร้างผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิต

                         ศาสตร์แห่งสมุนไพรเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก พืชสมุนไพรแต่ละชนิดมีการนำมาใช้เป็นระยะเวลานาน และเก็บเป็นฐานข้อมูลเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของมันจากคนรุ่นต่อรุ่น  ในทุกส่วนของพืชสมุนไพรอาจจะนำมาใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกันตามประเภท ทั้งใบ ทั้งกิ่งก้าน ทั้งราก  ล้วนแล้วแต่มีคุณประโยชน์แอบแฝงอยู่

                         ในพืชสมุนไพรเองก็มักจะมีสารเคมีชนิดต่างๆ ประกอบอยู่หลายชนิด ดังนั้นการสกัดพืชสมุนไพรจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการนำสมุนไพรมาใช้ประโยชน์ ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งการสกัดพืชสมุนไพรออกได้หลายแบบซึ่งขึ้นกับลักษณะการนำไปใช้ประโยชน์ เช่นการสกัดพืชสมุนไพรเพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยาแผนปัจจุบัน หรือการสกัดพืชสมุนไพรเพื่อต้องการสารเคมีที่เฉพาะเจาะจงที่แฝงอยู่ในพืชสมุนไพรต่างๆ เป็นต้น

                                                     
                                                                       ว่านหางจระเข้หนึ่งในสมุนไพรไทย
                                                                ภาพจาก http://www.pharm.su.ac.th/

                          ผศ.ดร.อาทิวรรณ โชติพฤกษ์ อาจารย์จากภาควิชา วิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  เป็นนักวิจัยอีกท่านหนึ่งที่สนใจในเรื่องของการสกัดพืชสมุนไพร โดยมีผลงาน เช่น ฤทธิ์ของสารสกัดใบแป๊ะก๊วยต่อการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงส่วนปลายและระยะเวลาเลือดออก,การสกัดสารแอนทราควิโนนส์จากรากของต้นยอด้วยน้ำกึ่งวิกฤต,การสกัดสารประกอบทางยาจากมะระขี้นกด้วยน้ำกึ่งวิกฤต และล่าสุด ผศ.ดร.อาทิวรรณ โชติพฤกษ์ เพิ่งได้รับรางวัลรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ประจำปี พ.ศ. 2551 จาก มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ จาก ความทุ่มเท ให้กับงานวิจัยในแขนงนี้โดยมุ่งเน้น การนำเทคโนโลยีของไหลวิกฤตยวดยิ่ง และของไหลกึ่งวิกฤตมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการสกัดพืชสมุนไพร และการทำปฏิกิริยาเพื่อเปลี่ยนชีวมวลจากการเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม แทนการใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ ผศ.ดร.อาทิวรรณ โชติพฤกษ์ เผยว่า

                          “โดยสรุปแล้วงานที่ทำจะเน้นหลักๆ คือการนำเอาทรัพยากรในบ้านเรามาทำให้มีมูลค่าสูงขึ้นซึ่งตัวเองมีความสนใจในเทคโนโลยีนี้ ของเหลวยิ่งยวดหรือเรียกว่ายวดยิ่งก็ได้  อันนี้เป็นสภาวะของไหลที่  เมื่อเราเพิ่มอุณหภูมิหรือความดันขึ้นไปมันก็จะมีสถานะพิเศษที่นำมาใช้เป็นตัวทำละลายของสารละลายอินทรีย์ที่นำมาสกัดสารพวกยาหรือสมุนไพรอะไรก็ได้ ”

                          ผศ.ดร.อาทิวรรณ โชติพฤกษ์ ได้นำเทคโนโลยีของไหลวิกฤตยวดยิ่ง และของไหลกึ่งวิกฤตมาใช้ในการสกัดพืชสนุมไพรเพื่อทดแทนการสกัดพืชสมุนไพรด้วย ตัวทำละลายอินทรีย์ (organic solvent)จากสารเคมี ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบได้ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบทางผิวหนัง ผลกระทบต่อระบบประสาท ผลกระทบต่อระบบโลหิตอันสามารถเกิดจากใช้ตัวทำละลายอินทรีย์ได้ ซึ่งผศ.ดร.อาทิวรรณ โชติพฤกษ์ ได้อธิบายเกี่ยวกับของไหลยิ่งยวดไว้ว่าเช่นน้ำที่บรรจุอยู่ในภาชนะปิดสนิท เมื่อให้ความร้อนปริมาณหนึ่งกับน้ำ น้ำส่วนหนึ่งกลายเป็นไอ และเนื่องจากระบบเป็นภาชนะปิดสนิท ความดันภายในระบบจะมีค่าสูงขึ้น  ในสภาวะดังกล่าวจะมีน้ำในสถานะของเหลวและไออยู่ร่วมกัน และถ้าหากเราให้ความร้อนเพิ่มขึ้นต่อไปจนถึงอุณหภูมิและความดันค่าหนึ่ง น้ำในภาชนะจะไม่ปรากฎอยู่ในทั้งสภาวะไอหรือของเหลว เราเรียกจุดนี้ว่า จุดวิกฤต  และถ้ายังมีการให้ความร้อนต่อไปอีก น้ำจะเข้าสู่สภาวะที่เรียกว่าเป็นของไหลวิกฤตยวดยิ่ง

ไม้มงคล

ไม้มงคล

แก้ไขล่าสุด sharefeeling เมื่อ 8/8/2009 00:24  


ต้นเศรษฐีมีทรัพย์ ... จัดอยู่ในประเภท ไม้มงคล หมายถึง ร่ำรวยเงินทองและมีบารมี



ต้นถุงเงิน ถุงทอง ... จัดเป็น ไม้มงคล ลักษณะ ใบหงิกงอ เหมือน เป็นโรคแต่ความจริง ใบหงิกห่อตัวเหมือนถุง



ต้นรวยไม่เลิก... ใบยาวเรียวสีเขียวสด ต้องออกดอกให้เห็นก่อนถึงจะรวย T_T



ต้นเพชรไพลิน  ต้นไม้แห่งคุณค่า...คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นเพชรไพลินไว้ประจำบ้าน จะทำให้เกิดคุณค่าที่สูง เพราะเพชรคืออัญมณีที่มีค่าสูง ดังนั้นเพชรไพลินจึงเป็นของสูงที่มีค่าชนิดหนึ่ง ดังนั้นเพชรไพลินจึงเป็นไม้มงคลนาม

     



ต้นพญาสัตบรรณ ไม้แห่งความมีเกียรติ ...คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นสัตบรรณไว้ประจำบ้านจะทำให้มีเกียรติเพราะพญาสัตบรรณหรือฉัตรบรรณคือเครื่องสูงที่ ใช้ในขบวนแห่เป็นเกียรติยศ และ พญา ก็คือ ผู้เป็นใหญ่ที่ควรยกย่อง เคารพนับถือ ดังนั้นพญาสัตบรรณจึงเป็นไม้มงคลนาม

      


ต้นเงินไหลมา ไม้มงคลประจำบ้าน ... คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นเงินไหลมาไว้ประจำบ้าน จะทำให้เกิดความร่ำรวย เพราะเงินไหลมาเป็นไม้มงคลนาม สามารถทำให้เงินทองไหลมาสู่บ้านและผู้อาศัย จึงทำให้เกิดความมั่งมี

     



ต้นพู่ระหงส์ ไม้มงคลน้ำใจ ... คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นพู่ระหงส์ไว้ประจำบ้านจะทำให้เป็นผู้มีน้ำใจและมีจิตใจที่สูง เพราะลักษณะของดองพู่ระ หงห์เวลาบานจะบ่งบอกถึงกริยาที่หวานเย็น เบิกบานแสดงถึงความยินดีมีน้ำใจ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นในตัวของดอกพู่ระหงส์เอง

     



ต้นโกสน ไม้แห่งบุญบารมี ... คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นโกสนไว้ประจำบ้าน จะทำให้มีบุญบารมี เพราะโกสนโบราณคงกล่าวถึง กุศล คือ การสร้างบุญ คุณงามความดี




ต้นมรกตแดง ต้นไม้สูงคุณค่า ... คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นมรกตแดงไว้ประจำบ้านจะทำให้มีคุณค่าสูงเพราะมรกตเปรียบเสมือนแก้วซึ่งเป็นแก้วที่มีสีเขียวจัดอยู่ในพวกนพรัตน์ 9 อย่าง ได้แก่เพชร ทับทิมมรกตบุษราคัมโกเมนนิลจินดาเพทายไพทูรย์ดังนั้นจึงถือว่าเป็นของสองที่มีค่า

     



ต้นใบละบาท ไม้แห่งความร่ำรวย ... ใบละบาทเป็นพรรณไม้ยืนต้นประเภทเถาเลื้อยลำต้นมีความยาวประมาณ10-15 เมตรชอบเลื้อยไปตามกิ่งไม้หรือต้นไม้ใหญ่เลื้อยไปได้ไกลแตกกิ่งก้านและใบคลุมแน่นทึบลำต้นสีเขียวมีขนอ่อนๆ มีสีขาวคลุมทั่วต้นลำต้นอวบน้ำใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกสลับกันเป็นคู่จากข้อของลำต้นใบใหญ่ ลักษณะรูปใบโพธิ์สีเขียวสดใต้ใบจะมีขนอ่อนสีขาวเคลือบอยู่ทั่วใต้ใบขนาดกว้างประมาณ8-12 เซนติเมตรยาวประมาณ 12-18 เซนติเมตร




ต้นธรรมรักษา ต้นไม้แห่งการคุ้มครองและรักษา ... คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นธรรมรักษาไว้ประจำบ้าน จะช่วยคุ้มครองและรักษา ให้เกิดความสงบสุขแก่บ้านและผู้อาศัย เพราะธรรมรักษาเป็นไม้มงคลนาม



ต้นพุทธรักษา ... ปลูกไว้ประจำบ้านจะช่วยคุ้มครอง ป้องกันอันตรายแก่บ้าน และ ผู้อาศัยได้ เพราะพุทธรักษาเป็นพรรณไม้ที่คนโบราณเชื่อว่า มีพระเจ้าคุ้มครองรักษาให้มีความสงบสุข




ต้นพุด ...ปลูกประจำบ้านจะทำให้มีความเจริญ  ความมั่นคง  เพราะพุด  หรือ พฒ หมายถึง ความแข็งแรง  สมบูรณ์  คือ ความเจริญมั่นคง  นั่นเอง





ต้นกระดังงา... ปลูกไว้ประจำบ้านจะทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง  เพราะกระดัง  คือ การทำให้เกิดเสียงดังไปไกล  เชื่ออีกว่า เสียงดังเหมือนกับนกการะเวกในสมัยพุทธกาล คือ มีเสียงดังไพเราะมาก ก้องไกลทั่วสวรรค์ ดังนั้น บางคน จึงเรียกกระดังงา ว่า การะเวก





ต้นลิ้นมังกร ...ปลูกไว้ประจำบ้าน จะช่วยป้องกันอันตรายจากภายนอกได้  เพราะลิ้นมังกร บางคนเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า  หอกพระอินทร์  ซึ่งเป็นอาวุธชนิดหนึ่ง  ที่ใช้ในการต่อสู้ และ ปกป้องศัตรูจากภายนอก




ต้นเล็บครุฑ ... ปลูกไว้ประจำบ้านจะช่วยคุ้มครอง  และ ป้องกันภัย  เพราะ ครุฑ หรือ คุตติ  คือการคุ้มครองรักษาให้เกิด ความสงบสุข และ  ปลอดภัย



เมนูอาหาร

กระเพราเนื้อสับพริกไทยอ่อน

Credit By : กุ๊กเล็ก ( ครัวผู้จัดการ )
กระเพราเนื้อสับพริกไทยอ่อน
~ กระเพราเนื้อสับพริกไทยอ่อน ~


หลายๆคนมักจะมองว่า เมนู“ผัดกระเพรา”เป็นเมนูสิ้นคิด แต่สำหรับกุ๊กเล็กแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ผัดกระเพรา ไข่เจียว ไข่ดาว หรือข้าวคลุกน้ำปลาพริก หากกินถูกที่ ถูกเวลา ถูกจังหวะ ถูกอารมณ์นั้น บางครั้งอร่อยกว่าเมนูหะรูหะราเป็นไหนๆ ใครไม่เชื่อก็ลองปล่อยกระเพาะไว้ให้หิวจนแสบไส้ หน้ามืดตามัว แล้วไปหาข้าวผัดกระเพราไข่ดาวกับน้ำปลาพริกกินดูรับรองว่ากระเพราไข่ดาวมื้อนั้นเด็ดแน่

อย่างในมื้อนี้กุ๊กเล็กมีเมนู “กระเพราเนื้อสับพริกไทยอ่อน” มาฝากบรรดามิตรรักนักกิน ที่หลายๆคนอาจมองว่าสิ้นคิด ซึ่ง“กุ๊กเล็ก”ว่า สำหรับเมนูนี้ไม่ต้องเสียเวลาคิดหรอก เพราะว่าหากอยากกินก็หาเครื่องปรุงและเดินเข้าครัวทำกันเลยดีกว่า อย่ามัวคิดพิรี้พิไรอยู่เลย


ส่วนผสมเนื้อสับหยาบๆ 1 ขีด
พริกสด 2 - 3 เม็ด
กระเทียม 3 - 4 กลีบ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยอ่อน กระเพราเด็ดเป็นใบๆ กระชายซอยเป็นเส้นๆ
น้ำปลา น้ำตาล ซอสปรุงรส ปริมาณตามความชอบ


วิธีทำ1. ตำพริกกับกระเทียมเข้าด้วยกันแต่ไม่ต้องละเอียดมาก
2. จากนั้นตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอร้อนแล้วใส่พริกกับกระเทียมที่โขลกลงไปผัดให้มีกลิ่นหอม
3. ตามด้วยเนื้อสับ ซอสปรุงรส น้ำปลา น้ำตาล ผัดคลุกเคล้าเข้ากันจนเนื้อสุก ซึ่งตอนนี้อาจจะเติมน้ำหรือน้ำซุปลงไปด้วยนิดหน่อย บรรเลงเพลงผัดสักครู่ จึงใส่กระชาย และพริกไทยอ่อน เพื่อเพิ่มรสชาติให้ดุเด็ดเผ็ดร้อนยิ่งขึ้น
4. ตบท้ายด้วยการใส่ใบกระเพราลงไปผัด ให้ใบกระเพรายุบตัว พร้อมกับโชยกลิ่นหอมๆ ผสมอาการแสบๆคันๆรูจมูกของคนรอบข้าง

แค่นี้พิธีกรรมเสกอาหารจานอร่อย แต่มากด้วยคุณค่าสมุนไพรไทยนี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น เหลือแต่พิธีกินที่ต้องรีบไปตักข้าวร้อนๆ ราดด้วย “กระเพราเนื้อสับพริกไทยอ่อน” หรือใครจะทำไข่ดาวมาเสริมทัพท้องก็เก๋ไปอีกแบบ